2007年5月24日木曜日

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. ๒๐๙๘- ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๑๔๘) หรือ สมเด็จพระเจ้าสรรเพชญ์ที่ ๒ พระนามเดิมว่า พระองค์ดำ โอรสของ สมเด็จพระมหาธรรมราชา และ พระวิสุทธิกษัตริย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) พระองค์เสด็จพระราชสมภพที่เมืองพิษณุโลก ทรงมีพระเชษฐภคิณีคือพระสุพรรณกัลยาทรงมีพระอนุชาคือสมเด็จพระเอกาทศรถ(องค์ขาว) และทรงเป็�! �พระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย พระนามของพระองค์ปรากฏในลายลักษณ์อักษรหลายฉบับ เช่น พระนเรศ วรราชาธิราช พระนเรสส องค์ดำ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าพระนาม นเรศวรได้มาจากที่ใด สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เพี่ยนมาจาก สมเด็จพระนเรศ วรราชาธิราช เป็น สมเด็จพระนเรศวร ราชาธิราช



สารบัญ
ตลอดระยะเวลาในวัยเยาว์ของพระนเรศวรทรงใช้ชีวิตอยู่ในพระราชวังจันทร์ เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งเมื่อพระเจ้าบุเรงนองยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้าเมืองพิษณุโลกยอมอ่อนน้อมต่อแห่งหงสาวดี และทำให้พิษณุโลกต้องแปรสภาพเป็นเมืองประเทศราชหงสาวดีไม่ขึ้นต่อ กรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าบุเรงนองก็ทรงขอพระนเรศวรไปเป็นองค์ประกันที่หง�! �าวดีและชุบเลี้ยงพระองค์ไว้ทำให้พระองค์ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนตั้งแต่มีพระชนม์มายุเพียง ๙ พรรษา
พระนเรศวรไปประทับที่หงสาวดีในฐานะองค์ประกันจากพิษณุโลก และนอกจากพระองค์แล้วยังมีองค์ประกันจากเมืองอื่น ๆ ที่เป็นเมืองขึ้นของหงสาวดีเป็นจำนวนมาก พระเจ้าบุเรงนองนั้นทรงให้เหล่าองค์ประกันได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาอย่างดี พระนเรศวรทรงใช้เวลา ๘ ปีเต็มในหงสาวดีศึกษายุทธศาสตร์ของพม่า พระองค์ทรงศึกษาวิชาศิลปศาสตร์ และวิชาพิชัยสงคราม ทรงนิยม�! ��นวิชาการรบทัพจับศึก พระองค์ทรงมีโอกาสศึกษา ทั้งภายในราชสำนักไทย และราชสำนักพม่า มอญ และได้ทราบยุทธวิธีของชาวต่างชาติต่าง ๆ ที่มารวมกันอยู่ในกรุงหงสาวดีเป็นอย่างดี เช่น ชาวโปรตุเกส สเปน หรือชาวพม่าเอง ทรงนำหลักวิชามาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับเหตุการณ์ และสภาพแวดล้อมในการทำศึกได้เป็นเลิศ ดังเห็นได้จากการสงครามทุกครั้งของพระองค์ ยุทธวิธีที่ทรง�! �ช้ ได้แก่ การใช้คนจำนวนน� ��อยเอาชนะคนจำนวนมาก และยุทธวิธีการรบแบบกองโจร พระองค์ทรงนำมาใช้ก่อนจอมทัพที่เลื่องชื่อในยุโรป นอกจากนั้น หลักการสงครามที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน เช่น การดำรงความมุ่งหมาย หลักการรุก การออมกำลัง และการรวมกำลัง การดำเนินกลยุทธ ความเด็ดขาดในการบังคับบัญชา การระวังป้องกัน การจู่โจม ฯลฯ พระองค์ก็ทรงนำมาใช้อย่างเชี่ยวชาญ และประสบผล�! �ำเร็จอย่างงดงามมาโดยตลอด เนื่องจากการที่พระองค์มีชีวิตอยู่ในฐานะองค์ประกันทำให้ทรงมีความกดดันสูงจากมังกะยอชวา (พระราชโอรสในพระมหาอุปราชนันทบุเรง) จึงทรงมีแรงผลักดันที่จะกอบกู้อิสรภาพให้กับบ้านเมืองของพระองค์ เช่น จากการชนไก่ของพระองค์กับมังกะยอชวา เป็นต้น รวมทั้งการเหยียดหยามว่าเป็นเชลย จากพวกพม่าด้วย



พระราชประวัติเมื่อทรงพระเยาว์กับชีวิตและการศึกษาในหงสาวดี
หลังจากที่พระเจ้าบุเรงนองตีกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. ๒๑๑๒ มะเส็งศก วันอาทิตย์ เดือน ๙ แรม ๑๑ ค่ำ และได้สถาปนาสมเด็จพระมหาธรรมราชาครองกรุงศรีอยุธยาในฐานะประเทศราชของหงสาวดีต่อไป หลังจากนั้น พระนเรศได้หนีกลับมาไทยโดยที่บุเรงนองยินยอมด้วยอันเนื่องมาจากพระสุพรรณกัลยาได้ขอไว้ โดยที่บุเรงนองยินยอม หลังจากที่พระองค์ดำกลับมากรุงศรีอยุธยา สมเด็จพร! ะมหาธรรมราชาได้ทรงพระราชทานนามให้ว่า พระนเรศวร และโปรดเกล้าฯให้เป็นพระมหาอุปราชไปปกครองเมืองพิษณุโลก ทรงปกครองเมืองอย่างดีและทรงเริ่มเตรียมการที่จะกอบกู้เอกราชของกรุงศรีอยุธยา



ดำรงยศเป็นพระมหาอุปราช
นับตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพเป็นต้นมา หงสาวดีได้เพียรส่งกองทัพเข้ามาหลายครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยาตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง เมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชา เสด็จสวรรคต เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๓๓ พระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๑๓๓ เมื่อพระชนมายุได้ ๓๕ พรรษา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระนเรศวร หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ และ�! �ปรดเกล้า ฯ ให้พระเอกาทศรถ พระอนุชา ขึ้นเป็นพระมหาอุปราช แต่มีศักดิ์เสมอพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่ง
ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจากหงสาวดี และได้ทำสงครามกับอริราชศัตรูทั้งพม่าและเขมร จนราชอาณาจักรไทยเป็นปึกแผ่นมั่นคง ขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาลกว่าครั้งใดในอดีตที่ผ่านมา งานสงครามในรัชสมัยของพระองค์ ทั้งในดินแดนไทยและดินแดนข้าศึก ได้ชัยชนะทุกครั้ง ทรงมีพระปรีชาสามารถในการนำทัพ ทรงริเริ่มนำยุทธวิธีแบบใหม่! มาใช้ในการทำสงคราม และเปลี่ยนแนวความคิดจากการตั้งรับมาเป็นการรุก และริเริ่มการใช้วิธีรบนอกแบบ
การสงครามกับพม่าครั้งสำคัญที่ทำให้พม่าไม่กล้ายกทัพมารุกรานไทยอีกเลย เป็นเวลาเกือบสองร้อยปีคือ สงครามยุทธหัตถี เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๓๕ นั่นคือเมื่อหงสาวดีนำโดยพระมหาอุปราชามังสามเกียดยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง สมเด็จพระนเรศวรก็นำทัพออกไปจนปะทะกันที่หนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี บ้างก็ว่าจังหวัดกาญจนบุรี สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงกระทำยุทธหัตถี�! �ับพระมหาอุปราชาจนกระทั่งสามารถเอาพระแสงง้าวฟันพระมหาอุปราชาขาดสะพายแล่ง สิ้นพระชนม์อยู่กับคอช้างนั่นเอง



ยุทธหัตถี
พ.ศ. ๒๑๓๗ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงก็ให้พระเจ้าแปรมาตีกรุงศรีอยุธยาแต่ก็แตกทัพกลับไป พ.ศ. ๒๑๔๒ เสด็จออกไปตีกรุงหงสาวดี พระเจ้าหงสาวดีหนีไปเมืองตองอู กองทัพไทยตามไปถึงเมืองตองอูแต่ขาดเสบียง พ.ศ. ๒๑๔๗ ยกกองทัพไปกรุงหงสาวดีอีกครั้งถึงเมืองหาง (ในพงศาวดารบางฉบับว่าเมืองห้างหลวง) อันเป็นเมืองอยู่ชายพระราชอาณาเขตในสมัยนั้น เมื่อปลายเดือน ๕ ปีมะเส็ง พ.ศ.! ๒๑๔๘ ได้เสด็จประทับแรมอยู่ ณ ตำบลทุ่งแก้ว เกิดประชวรเป็นหัวระลอกขึ้น (บ้างว่าถูกตัวสัตว์พวกแมลงมีพิษต่อย) ที่พระพักตร์แล้วเลยเป็นบาดพิษจนเสด็จสวรรคตที่เมืองหาง เมื่อวันจันทร์ เดือน ๖ ขึ้น ๘ ค่ำ พ.ศ. ๒๑๔๘ เรื่องวันสวรรคตนี้มีรายละเอียดกล่าวต่างกัน พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขากล่าวว่า เสด็จสวรรคตวันจันทร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ เพลาชายแล้ว ๒ บาท ปีม! ะเส็ง ในหนังสือ A History of Siam ขอ� � W.A.R. Wood กล่าวว่าสวรรคตวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๖๐๕ (พ.ศ. ๒๑๔๘) พระชันษาได้ ๕๐ ปี เสวยราชสมบัติได้ ๑๕ ปี



สวรรคต

พ.ศ. 2113 เสด็จออกร่วมรบกับทหารโดยขับไล่กองทัพเขมรได้สำเร็จ
พ.ศ. 2114 ได้รับสถาปนาให้ปกครองเมืองพิษณุโลก เมื่อพระชนมายุ ๑๖ พรรษา
พ.ศ. 2117 เสด็จไปรบที่เวียงจันทน์ เผอิญทรงประชวรเป็นไข้ทรพิษจึงเสด็จกลับ
พ.ศ. 2121 ทรงทำสงครามขับไล่พระยาจีนจันตุออกไปจากกรุงศรีอยุธยา
พ.ศ. 2127 ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง และกวาดต้อนคนไทยกลับพระนคร
พ.ศ. 2127-พ.ศ. 2130 พม่ายกกองทัพมาตีไทยถึง ๔ ครั้ง แต่ถูกไทยตีแตกพ่ายกลับไป
พ.ศ. 2133 ทรงเสด็จครองราชย์ ณ กรุงศรีอยุธยาเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา
พ.ศ. 2135 ทรงทำสงครามยุทธหัตถี และมังกะยอชะวา สิ้นพระชนม์
พ.ศ. 2136 ทรงยกกองทัพไปตีเขมรและจับพระยาละแวกทำพิธีปฐมกรรม
พ.ศ. 2138 และ พ.ศ. 2141 ทรงกรีฑาทัพไปตีกรุงหงสาวดี ครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒
พ.ศ. 2148 ทรงกรีฑาทัพไปตีกรุงหงสาวดี เมื่อไปถึงเมืองหางหรือเมืองห้างหลวง ทรงพระประชวร เป็นหัวระลอกขึ้นที่พระพักตร์ เสด็จสวรรคต ณ ทุ่งแก้ว เมืองห้างหลวง ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง พระชนมายุ ๕๐ พรรษา ครองราชย์สมบัติได้ ๑๕ ปี

พระราชกรณียกิจ

ในประเทศไทยได้มีการนำพระราชประวัติมาสร้างเป็นภาพยนตร์ 2 ครั้ง ครั้งแรก ใช้ชื่อว่า มหาราชดำ ในปี พ.ศ. 2522 และครั้งที่ 2 ใช้ชื่อว่า ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในปี พ.ศ. 2550
เคยมีการสร้างละครเรื่อง สมด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อ พ.ศ. 2538 ทางช่อง 3 อสมท. และมีการนำมาฉายใหม่ทางช่อง สทท.11 อีกครั้งในภายหลัง
ไม่ เมืองเดิม ได้นำเหตุการณ์ในสมัยนี้ไปใช้เป็นฉากในนวนิยายเรื่อง ขุนศึก ซึ่งตัวเอกของเรื่องคือ เสมา ทหารในสมัยสมเด็จพระนเรศวรซึ่งมีชาติกำเนิดเป็นช่างตีเหล็ก นวนิยายเรื่องนี้ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์เช่นกัน
มีการนำพระราชประวัติของพระองค์ไปเขียนเป็นหนังสือการ์ตูนอยู่หลายครั้ง เช่น มหากาพย์กู้แผ่นดิน ผลงานของมนตรี คุ้มเรือน เป็นต้น
ได้มีการสร้างตำนานสมเด็จพระนเรศวรอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้ชื่อว่า กษัตริยา ควบคู่กับ มหาราชกู้แผ่นดิน ซึ่งเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงครองราชย์ 72 พรรษา โดยเป็นของบริษัทกันตนา ซึ่งฉายทางช่อง 5 (ในปี พ.ศ. 2545-พ.ศ. 2546)

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในวัฒนธรรมร่วมสมัย


เว็บไซต์พระนเรศวร
พระประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

à¸à¸

ดง

ดง บัง ชิน กิ (동방신기, 동방신기, , MC: Dongbangsin-gi, , MR: Tongbangshin-gi ) เป็นวง 5 หนุ่มบอยแบนด์จากเกาหลีใต้ ที่มีชื่อเป็นทางการว่า Tong Vfang Xien Qi (TVfXQ) ซึ่งเป็นภาษาจีนโบราณ 東方神起 แปลว่า "เทพเจ้าที่เติบโตจากโลกตะวันออก" มีการร้องแบบ Acapella dance ดนตรีประสานเสียงแนวใหม่ และยังคงรู้จักในชื่ออื่นว่า DBSK/DBSG, TVFXQ, THSK, Dong Bang Shin Gi



สารบัญ
สมาชิกคนแรกของ TVfXQ คือ Kim Junsu (김준수) ซึ่งผ่านการแคสติ้งจากรายการโทรทัศน์ที่ต้องการหาศิลปินหน้าใหม่(Moon Hee Jun และ Kangta เป็นกรรมการ)มารวมตัวกันตั้งวงดนตรี ด้วยอายุแค่ 12 ปี เขาก็ได้เริ่มฝึกฝนตัวเอง โดยได้รับแรงผลักดันและสนับสนุนอย่างเต็มที่จากคุณแม่ซึ่งเป็นอดีตนางงามของประเทศเกาหลี JunSu ได้รับการเทรนอีกถึง 6 ปี กว่าที่เขาจะได้ออกมาเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว โดยใช้ช�! �่อในวงการว่า Xiah JunSu และเขายังเป็นสมาชิกของดงบังชินกิคนเดียวที่ได้เทรนร่วมกับนักร้องสาวชื่อดังอย่าง BoA ด้วย
Jung Yunho (정윤호) ก้าวเข้ามาร่วมทีมเป็นคนที่ 2 เขามีความมุ่งมั่นสูง เขาตัดสินใจเดินทางจากบ้านเกิดที่ Gwang Joo มุ่งสู่กรุงโซล เพื่อตามหาความฝันที่จะเป็นนักร้อง หลังจากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการเต้นจากการแข่งขันออดิชั่นของ SM Entertainment เขาก็ได้เริ่มจากการเป็นแดนเซอร์ และแรปเปอร์ ให้กับศิลปินรุ่นพี่ใน SM ที่ชื่อ DANA และเมื่อทางสังกัดเล็งเห็นความสามารถเกินตัวของเข�! �� จึงเสนอให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง และเป็นที่รู้จักในนาม U-Know YunHo
Kim Jaejoong (김재중) ก้าวเข้ามาร่วมทีมเป็นคนที่3 เขาละทิ้งบ้านเกิดที่ Chung Nam เพื่อสานฝันให้เป็นจริง ทันทีที่ถึงกรุงโซล เขาก็ได้เข้าร่วมออดิชั่นของ SM Entertainment เขาได้รับรางวัลชนะเลิศโดยไม่ได้คาดฝัน จากนั้นก็ได้รับการเทรนราวๆ 4 ปี จึงได้เป็นศิลปินเต็มตัว โดยได้ใช้ชื่อที่หมอดูเคยทำนายไว้แล้วเมื่อหลายปีก่อนว่า YoungWoong JaeJoong (Hero)
Shim Changmin (심창민) ก็ได้ผ่านการออดิชั่น และได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการร้องเพลงมาเช่นกัน ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะยังเป็นเด็กอยู่ แต่เขาก็มีพลังเสียงและโทนเสียงสูงที่โดดเด่นมาก เขาเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับการร้องเพลงมาก จนบางครั้งถึงกับร้องไห้ถ้าร้องไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ และเขาก็จะยอมรับในความคิดเห็นของเพื่อนๆ ด้วย เขาเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับทุกสิ่งที่ทำ แล! ะมักจะถ่อมตนอยู่เสมอ ชื่อในวงการของเขาคือ ChoiKang ChangMin (Max)
Park Yoochun (박유천) ใช้ชีวิตตั้งแต่เด็กที่อเมริกา เขาชนะเลิศการประกวดร้องเพลงที่เวอร์จิเนียในปี 2001 และได้รับรางวัลพิเศษจากการประกวดร้องเพลงเยาวชน KBN ในปี 2003 จึงได้รับการทาบทามให้มาร่วมทีมเพียงแค่ 6 เดือนก่อนการเปิดตัววง TVfXQ อย่างเป็นทางการ แต่เนื่องจากเขาเรียนรู้เร็ว จึงเข้ากับสมาชิกคนอื่นได้ไม่ยาก นอกจากนี้เขายังมีความสามารถในการเล่นเปียโน และแต่งเพลงไ�! �้มากมาย ถึงแม้ว่าเขาจะต้องอยู่ห่างกันคนละซีกโลกกับครอบครัว แต่ เขาก็ได้ปฏิเสธที่จะเป็น US Citizenship เพื่อที่จะมุ่งมั่นในการเป็นศิลปินอย่างเต็มที่ โดยใช้ชื่อว่า Micky YooChun



สมาชิก
ดง บัง ชิน กิได้ปรากฏตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกวันที่ 26 ธ.ค. 2003 พวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็นนักร้องแนว อะคาเปลล่าป๊อป พวกเขาได้ปลุกวงการเพลงเกาหลีขึ้นมาอีกครั้ง
ซิงเกิ้ลแรกที่ชื่อว่า "HUG" ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และอีกประมาณ 6 เดือนต่อมา ซิงเกิ้ลที่ 2 ของพวกเขา "The way U are" ทำยอดขายได้ประมาณ 600,000 แผ่น และในเดือน ก.ย. ปี 2004 พวกเขาทั้ง 5 ก็พร้อมสำหรับอัลบั้มเต็มชุดแรก "TRI-ANGLE" และ TVfXQ ก็ได้รับการยอมรับให้เป็น กลุ่มศิลปินที่ฮ็อตที่สุดในปี 2004 ความโด่งดังของ TVfXQ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในเกาหลีเท่านั้น โดยเฉพาะหลังจากได้ร่วมงาน�! �ับ โบอา และ The Trax ในซิงเกิ้ล "Tri-Angle" ก็ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะญี่ปุ่นและจีน ส่วนในประเทศไทย ดง บัง ชิน กิได้มาเปิดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในประเทศไทย เมื่อ 15 กันยายน 2549 ด้วยคนดูร่วม 13,000 คน
เมื่อเดือน ตุลาคม 2549 U-KNOW ถูกลอบวางยาในเครื่องดื่มจนต้องเข้าโรงพยาบาล



ประวัติ



ผลงานอัลบั้ม
1st Album : Tri-Angle
รายชื่อเพลงในอัลบั้ม :
1.믿어요
2.Thanks To
3.Tri-Angle (feat. BoA and The TRAX)
4.내 여자친구가 되어줄래? (Will you be my girlfriend?)
5.Whatever They Say (Acapella)
6.Million Men
7.지금처럼 (Like its now)
8.I Never Let Go
9.꼬마야 (Little punk)
10.넌 언제나 (You,always)
11.Hug
12.My Little Princess
13.The Way U Are
14.Tri-Angle (동방신기 Version)

2nd Album : Rising sun (순수)
รายชื่อเพลงในอัลบั้ม :
1.Tonight
2.Beautiful Life
3.Rising Sun (순수)
4.바보 (Unforgettable)
5.네가 허락할테니 (Love Is Never Gone)
6.Love After Love
7.Dangerous Mind
8.One
9.Love Is...
10.Free Your Mind (feat. Trax)
11.작은 고백 (Your Love Is All I Need)
12.약속했던 그때에 (Always There…)

3rd Album : 'O'-正.反.合. ['O' Jung.Ban.Hub.]
รายชื่อเพลงในอัลบั้ม :
1.'O'-正.反.合. ('O'-Jung.Ban.Hub.)
2.세상에 단 하나뿐인 마음 (You're my miracle)
3.Hey! Girl
4.Get me some
5.I'll be there
6.White Lie...
7.Remember
8.이제 막 시작된 이야기 (The story has just begun)
9.ON&ON
10.Phantom 환영(幻影)
11.You only love
12.풍선 (Balloons)



ผลงานในภาษาเกาหลี
Single
1st Single  : Stay with me tonight
2nd Single  : Somebody to love
3rd Single  : My destiny
4th Single  : 明日は来るからAsuwa kuru kara
5th Single  : Rising sun/Heart Mind and Soul
6th Single  : Begin
7th Single  : Sky
8th Single  : Miss you/ 'O' 正.反.合.
9th Single  : Step by Step
10th Single : Choosey Lover

Album

1nd Album : Heart Mind and Soul
รายชื่อเพลง :
1.Introlude
2.言葉はいらない (Kotoba wa Iranai)
3.明日は来るから (Asu wa Kuru Kara)
4.Somebody to love
5.My Destiny
6.HUG
7.Break Up The Shell
8.Stay with me tonight
9.愛せない愛したい (Aisenai Aishitai)
10.One
11.Rising Sun
12.Eternal
13.Heart Mind and Soul

2nd AlBum : Five in black

รายชื่อเพลง :
1.ZION
2.Sky
3.Begin
4.Choosey Lover
5.High time
6.DEAD END
7.PROUD
8.約束
9.Miss You
10."O" -正・反・合
11.I'll be there
12.Step by Step
13.Hello again



ผลงานในภาษาญี่ปุ่น

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการในเกาหลี
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการในไทย
Forum Spanish FanClub TVXQ Unofficial
Website Spanish Fanclub TVXQ Unofficial
TVXQ Spain - Group MSN of TVXQ

รายà¸à¸·à¹à¸­à¸­à¸²à¸à¸²à¸£à¸à¸²à¸à¸à¸²à¸£à¹à¸à¸à¸¢à¹



รายชื่ออาการต่างๆ ทางการแพทย์ข้างล่างนี้จนถึงปัจจุบันอาจยังไม่สมบูรณ์ หากผู้อ่านมีข้อมูลใหม่กว่านี้สามารถเพิ่มเต็มได้ตามอัธยาศัย

ทั่วไป

วิตกกังวล (anxiety)
มองเห็นไม่ชัด (blurred vision)
ภาวะผอมหนังหุ้มกระดูก (cachexia-R64)

เบื่ออาหาร (loss of appetite-R63.0)
น้ำหนักลด (weight loss-R63.4)
อาการเวียนศีรษะ (dizziness-R42) / อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน (vertigo)
มองเห็นภาพซ้อน (double vision-H53.2)
ง่วงซึม (drowsiness-R40.0)
ปากแห้ง (dry mouth-R68.2)
ความล้า/เหนื่อย/อาการกระเสาะกระแสะ (R53)
ไข้ (fever-R50)
นอนไม่หลับ (insomnia-F51.0, G47.0)
คัน (itch-L29)
ดีซ่าน (jaundice-P58, P59, R17)
อาการปวด (pain)

ปวดท้อง (abdominal pain-R10)
เจ็บหน้าอก (chest pain-R07)
ผื่นบนผิวหนัง (rash-R21)
การบวม / บวมน้ำ (R60) /การบวมทั้งตัว (R60.1) /ตุ่มพอง (T14.0)
เป็นลมหน้ามืด (syncope-R55)
สั่น (tremor-R25.1)
เสียงก้องในหู (tinnitus-H93.1)
ลมพิษ (urticaria-L50)
ระบบทางเดินอาหาร

ภาวะเบื่ออาหาร (anorexia-R63.0)
มีลมในลำไส้มาก (bloating-R14)
ขย้อน (belching-R14)
มีเลือดในอุจจาระ: อุจจาระดำ (melena-K92.1), hematochezia
ท้องผูก (constipation-K59.0)
ท้องร่วง (diarrhea-A09, K58, K59.1)
กลืนลำบาก (dysphagia-R13)
อาการไม่สบายท้อง (dyspepsia-K30)
อาการท้องอืด (flatulence-R14)
อาการคลื่นไส้ (nausea-R11)
อาการแสบร้อนกลางอก (pyrosis-R12)
อาเจียน (vomiting-R11)
ระบบหัวใจและหลอดเลือด

เจ็บหน้าอก (chest pain-R07)
อาการกะเผลกเหตุปวด (claudication)
ใจสั่น (palpitation-R00.2)
ระบบทางเดินปัสสาวะ (urologic)

ปัสสาวะแสบขัด (dysuria-R30.0)
ภาวะปัสสาวะมาก (polyuria-R35)
ภาวะปัสสาวะมีโลหิต (hematuria-R31)
ปัสสาวะบ่อย (urinary frequency-R35)
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (urine incontinence-R32)
ปอด

หายใจช้า (bradypnea-R06.0)
ไอ (cough-R05)
อาการหายใจลำบาก,หอบเหนื่อย (dyspnea-R06.0)
ไอเป็นเลือด (hemoptysis-R04.2)
เจ็บหน้าอกตามการหายใจ (pleuritic chest pain)
มีเสมหะ (sputum-R09.3)
อัตราหายใจเร็ว (tachypnea-R06.0)
อื่นๆ

ตามืดชั่วขณะ (amaurosis fugax-G45.3) and ตาบอดตาใส (amaurosis)
จ้ำเลือด (Bruise-Sx0 (x=0 through 9))
อาการปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ (dyspareunia-N94.1)
การตกเลือดกำเดา (epistaxis-R04.0)
ชัก (convulsion-R56)
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (impotence-N48.4)
เม็ดเลือดแดงใหญ่ผิดปกติ (macrocytosis-D75.8)
ตะคริว (muscle cramps-R25.2)
อัมพาต (paralysis)
ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน (paresthesia-R20.2)
อ้วน (weight gain-R63.5)

ดูเพิ่ม

อาการ
รายการอาการในรหัส ICD-9 (List of ICD-9 symptoms)
รายการอาการในรหัส ICD-10 (List of ICD-10 symptoms)

à¸à¸²à¸£à¸¥à¸°à¹à¸¥à¹à¸à¸ à¸²à¸à¸à¸°à¸§à¸±à¸à¸­à¸­à¸à¹à¸à¸µà¸¢à¸à¹à¸«à¸à¸·à¸­

การละเล่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

"การละเล่นภาคะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน" ซึ่งนอกจากชาวไทยแล้วยังมีชาวพื้นเมืองที่มีเชื้อสายเขมร เชื้อสายภูไท หรือผู้ไทย ลาว กุย แสก โซ่ง ฯลฯ การละเล่นพื้นเมืองจึงมีหลายประเภท เช่น
การละเล่นพื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือบางจังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ หนองคาย เลย และเพชรบูรณ์ บางแห่งเรียก "แข่งกลอง" ซึ่งเป็นการแข่งขันการตีกลองคู่ด้วยไม้ค้อนสองมือ กลองลูกหนึ่งจะหนักมาก ใช้คนหาม 2 คน สนามแข่งขันส่วนใหญ่อยู่ในวัด ตัดสินโดยการฟังเสียงกังวานที่ดังก้องสลับกัน ประกอบด้วยท่าตีที่สวยงาม เจ้าของกลองมักจะเป็นวัดในแต่�! �ะหมู่บ้านที่สร้างกลองชนิดนี้ไว้ นิยมเล่นในเทศกาลเดือนหก จนถึงเข้าพรรษา
การละเล่นพื้นเมืองของชาวไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการร่ายรำหมู่ ทั้งหมู่หญิงล้วน ชายล้วน และผสมทั้งชายหญิง เซิ้งเป็นคู่ ตั้งแต่ 3-5 คู่ เครื่องดนตรีประกอบการเล่นได้แก่ แกร๊ป โหม่ง กลองแตะ และกลองยาว ลีลาของการเซิ้งต้องกระฉับกระเฉง แคล่วคล่องว่องไว ทั้งนี้เพื่อมุ่งความสนุกสนานเพลิดเพลิน และผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการตรากตรำทำงา! น กระบวนการเล่นเซิงจะนำสภาพการดำรงชีวิตมาดัดแปลงเป็นลีลาท่ารำ เช่น นำลักษณะการจับปลาโดยใช้สวิงมาประดิษฐ์เป็นลีลาการเล่น "เซิ้งสวิง" นำเอาอากัปกิริยาของหญิงสาวชาวบ้าน ที่นำอาหารใส่กระติบไปส่งสามีและญาติที่กลางไร่กลางนา มาประดิษฐ์เป็นลีลาท่า "เซิ้งกระติบข้าว" หรอนำการออกไปตีรังมดบนต้นไม้ เพื่อนำมาประกอบอาหาร มาระดิษฐ์เป็น "เซิ้งแหย่ไข่มด�! ��ดง" ปัจจุบันเซิ้งได้วิว� ��ฒนาการตามยุคสมัย มีการคิดท่าใหม่ๆขึ้นอีกมาก เรียกชื่อแตกต่างกันตามลักษณะของการเลียนแบบสภาพวัฒนธรรมที่มีอย่ในพื้นเมืองนั้นเป็นหลัก เช่น เซิ้งโปง เซิ้งกระหยัง เซิ้งบั้งไฟ เซิ้งสุ่ม ฯลฯ และไม่ว่าจะคิดท่าใดๆขึ้น ลักษณะของเซิ้งก็จะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ไว้ในลีลาการเต้น ท่าเดิมไม่แตกต่างกันเลย
เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวไทยเชื้อสายเขมรในเขตอีสานใต้ ซึ่งเป็นชุมชนที่ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาถิ่น เช่น จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ตามประวัติแต่โบราณใช้สำหรับขับร้องประกอบการร่ายรำบวงสรวง รำคู่ และรำหมู่ ต่อมามีวิวัฒนาการของการเล่นคลายกับการเล่นเพลงปฏิพากย์ ในภาคกลาง มีกลองที่เรียกว่า "กลองกันตรึม" เป็นหลัก เมื่อตีเสียงจะออกเป็น! เสียง กันตรึม โจ๊ะ ตรึม ตรึม การเล่นจะเริ่มด้วยบทไหว้ครู เพื่อระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระวิศวกรรม ครูบาอาจารย์ และเริ่มทักทายกัน เล่นได้ทุกโอกาสไม่กำหนดว่าเป็นงานมงคลหรืออวมงคล วงดนตรีประกอบด้วย กลอง ซอ ปี่อ้อ ขลุ่ย ฉิ่ง กรับ ฉาบ กล่าวกันว่า ท่วงทำนองของเพลงกันตรึมมีกว่า 100 ทำนอง บทเพลงจะเกี่ยวกับเรื่อเบ็ดเตล็ด ตั้งแต่เกี้ยวพาราสี โอ้โลม ชมธรร�! �ชาติ แข่งขันปฏิภาณ สู่ขว� ��ญ เล่าเรื่อง ฯลฯ การแต่งกายแต่งตามประเพณีของท้องถิ่น ผู้หญิงนุ่งซิ่น เสื้อแขนกระบอก ผ้าสไบเฉียงห่มทับ ผู้ชายนุ่งโจงกระเบน เสื้อคอกลมแขนสั้น ผ้าไหมคาดเอวและพาดหล่
การละเล่นของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่า เดินขาโกกเกก มักใช้ไม้ไผ่เป็นไม้ค้ำ มีง่ามสองอันสำหรับยืนเหยียบเพื่อใช้เดินต่างเท้า เวลาเดินมีเสียงดัง ก้าวจะยาว มักใชแข่งเรื่องความเร็ว

การละเล่นกลองเส็ง,กลองสองหน้า
โปงลาง เป็นเครื่องดนตรีของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ วิวัฒนาการมาจากเกราะหรือขอลอ ตีเพื่อให้เกิดเสียงดัง โปง หมายถึง เสียงของโปง ลาง หมายถึงสัญญาณบอกลางดีหรือลางแห่งความรื่นเริง โปงลาง จึงหมายถึง เครื่องดนตรีที่มีเสียงแห่งลางดี ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง เรียงร้อยกัน 12 ท่อน ใช้แขวนเวลาตี การบรรเลงใช้คน 2 คน ตีเข้าจังหวะเร็ว รุกเร้าด้วยความสนุกสนาน มักจะเล่นเ�! ��้าวงกัน
เซิ้ง
กันตรึม
เดินไม้สูง

แหล่งข้อมูลอื่น
เดินขาโถกเถก
การละเล่นพื้นเมืองจังหวัดสกลนคร